• TH

BITKUB BLOG

รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มเกือบ 6,500 BTC

รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มเกือบ 6,500 BTC

รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มเกือบ 6,500 BTC

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Fri, 31 Mar 2023 | อ่าน: 318
ข่าว
รวมโปรโมชัน Bitkub ประจำปี 2566

รวมโปรโมชัน Bitkub ประจำปี 2566

รวมโปรโมชัน Bitkub ประจำปี 2566

ผู้เขียน : Sirapob Sangchai | Wed, 29 Mar 2023 | อ่าน: 2729
รู้จัก Dusting Attacks กลยุทธ์สุดเนียนที่มิจฉาชีพใช้ระบุตัวเหยื่อ

รู้จัก Dusting Attacks กลยุทธ์สุดเนียนที่มิจฉาชีพใช้ระบุตัวเหยื่อ

ในวงการคริปโทเคอร์เรนซี มีกลยุทธ์หนึ่งที่ถูกใช้โดยมิจฉาชีพเรียกว่า Dusting Attacks ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อระบุตัวตนของเหยื่อ กลยุทธ์นี้เริ่มกลับมาให้เห็นมากขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังได้รับความสนใจ ในบทความนี้ Bitkub Blog จะมาสรุปให้ฟังเกี่ยวกับ Dusting Attacks พร้อมวิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพครับ Dusting Attacks คืออะไร? Dusting Attacks คือกลยุทธ์ที่มิจฉาชีพใช้เพื่อระบุตัวตนเหยื่อ โดยเป็นส่งการคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนน้อย ๆ ไปยังกระเป๋าเงินแบบสุ่ม ซึ่งคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนดังกล่าวมักจะเป็นจำนวนที่น้อยมากจนไม่สามารถนำไปทำธุรกรรมอะไรได้ แต่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับติดตามความเคลื่อนไหวของกระเป๋าแทน มิจฉาชีพสามารถตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมของกระเป๋าเงินผ่านบล็อกเชนได้ ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลอย่างที่อยู่ของกระเป๋าอื่น ๆ ที่เหยื่อมีการทำธุรกรรมด้วย ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อวิเคราะห์ตัวตนของเหยื่อไปจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อได้เลย การโจมตีด้วยวิธี Dusting Attacks สามารถทำได้ด้วยคริปโทเคอร์เรนซีเกือบทุกสกุล ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, Dogecoin ฯลฯ ยกตัวอย่าง เช่น สมมติว่านาย A เป็นผู้ใช้ Bitcoin ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เขามักจะใช้ที่อยู่กระเป๋าเงินที่แตกต่างกันสำหรับธุรกรรมแต่ละรายการ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพสามารถติดตามกิจกรรมของเขาได้ อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งนาย A ได้รับ Bitcoin จำนวนเล็กน้อยในกระเป๋าเงิน ซึ่งเขาไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะคิดว่ามันเป็นเพียงการชำระเงินเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง Bitcoin จำนวนเล็กน้อยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Dusting Attacks ทำให้มิจฉาชีพสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมของนาย A และอาจเปิดเผยตัวตนของเขาได้ Dusting Attacks ป้องกันได้อย่างไร? ผู้ใช้คริปโตหรือนักลงทุนสามารถป้องกัน Dusting Attacks ไม่ให้สำเร็จได้ โดยมีเคล็ดไม่ลับดังต่อไปนี้ 1.ระวังธุรกรรมขาเข้า: หากคุณได้รับธุรกรรมโอนเข้ามาโดยที่คุณไม่คาดคิด และเป็นมูลค่าเล็กน้อยผิดปกติ โปรดใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งของ Dusting Attacks 2.อัปเดตแอปพลิเคชันอยู่เสมอ: นักลงทุนทุกคนควรอัปเดตแอปพลิเคชัน Bitkub Exchange หรือแอปฯ กระเป๋าเงินคริปโตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เนื่องจากเวอร์ชันใหม่ ๆ มักจะมีการอัปเดตความปลอดภัยที่สามารถช่วยป้องกันการโจมตีของมิจฉาชีพได้ 3.ระวังการ Phishing: บางครั้ง Dusting Attacks อาจตามมาด้วยโจมตีแบบ Phishing ซึ่งมิจฉาชีพจะพยายามหลอกให้เหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นคุณจึงไม่ควรเข้าลิงก์แปลก ๆ ที่พบในอีเมลหรืออินเทอร์เน็ต และตรวจสอบเว็บไซต์ที่ใช้ทำธุรกรรมว่าเป็นเว็บไซต์ของจริงหรือไม่ก่อนทำธุรกรรมเสมอ 4.เปลี่ยนรหัสผ่านให้แข็งแกร่งกว่าเดิม: หากคุณสงสัยว่าบัญชีของคุณอาจมีความเสี่ยง คุณสามารถพิจารณาเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ให้มีความแข็งแรงกว่ารหัสผ่านเดิม โดยต้องเป็นรหัสผ่านที่มีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร มีอักษรภาษาอังกฤษใหญ่-เล็ก มีตัวเลข และมีอักขระพิเศษอยู่ด้วยกัน ที่สำคัญคือต้องไม่เป็นรหัสผ่านที่ใช้ร่วมกับบัญชีอื่น ๆ ด้วย 5.เปิดใช้งาน 2FA และ SMS OTP: ทั้ง 2FA และ SMS OTP เป็นการยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น โดยจะเป็นการส่งรหัสผ่านชั่วคราวไปยังอุปกรณ์ที่ลงทะเบียน จึงเป็นระบบที่ป้องกันบัญชีที่น่าเชื่อถือและผู้ให้บริการออนไลน์ส่วนใหญ่ต่างแนะนำให้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ สรุป Dusting Attacks คือการส่งคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนน้อย ๆ ไปยังกระเป๋าเงินแบบสุ่ม มิจฉาชีพมักใช้เป็นกลยุทธ์สำหรับระบุตัวตนของเจ้าของกระเป๋า หากระบุตัวตนได้ก็อาจมีการโจมตีแบบเจาะจงเข้ามาทางอื่น ดังนั้น วิธีป้องกัน Dusting Attacks ที่ดีคือการหมั่นสังเกตว่ามีการทำธุรกรรมมูลค่าน้อย ๆ ที่เราคาดไม่ถึงเข้ามาหรือไม่ ตั้งรหัสผ่านที่มีความแข็งแรง เปิดใช้ระบบความปลอดภัยอย่าง 2FA และ SMS OTP และที่สำคัญคือการมีสติ ไม่เข้าลิงก์แปลก ๆ หรือก่อนทำธุรกรรมก็ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก่อน _________________________________________ บทความน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่10 วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพออนไลน์ขั้นตอนการติดตั้ง 2FA บน Bitkub _________________________________________ คำเตือน *สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ **คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน ***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต รู้จัก Dusting Attacks กลยุทธ์สุดเนียนที่มิจฉาชีพใช้ระบุตัวเหยื่อ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Tue, 28 Mar 2023 | อ่าน: 185
Bitcoin Dominance คืออะไร? รู้จักตัวชี้วัดความเป็นใหญ่ของ BTC

Bitcoin Dominance คืออะไร? รู้จักตัวชี้วัดความเป็นใหญ่ของ BTC

Bitcoin ถือเป็นคริปโทเคอร์เรนซีสกุลแรกของโลกและมีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดสกุลเงินดิจิทัล โดยบิตคอยน์มีมูลค่าตลาดสูงถึง 531,022,288,529 ดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มีนาคม 2023) ทำให้มันถูกเรียกว่าเป็นราชาแห่งคริปโต ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงที่สุดทำให้ Bitcoin มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดเมื่อเทียบสกุลอื่น และส่วนแบ่งตลาดของบิตคอยน์นี่เองที่กลายมาเป็นตัวชี้วัดที่เรียกว่า Bitcoin Dominance ที่เราจะมาเรียนรู้กันในบทความนี้ครับ Bitcoin Dominance คืออะไร? Bitcoin Dominance คือตัวชี้วัดที่วัดเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin (BTC) เปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่เหลือทั้งหมด สามารถคำนวณได้โดยการหารมูลค่าตลาดของ Bitcoin กับมูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด (มูลค่าตลาด BTC / มูลค่าตลาดคริปโต) สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าตลาด (Market Cap) ของสกุลเงินดิจิทัลทั้งของ BTC และสกุลอื่น ๆ สามารถดูได้จากเว็บไซต์อย่าง Coinmarketcap หรือ Coingecko เป็นต้น ยกตัวอย่าง หากมูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และมูลค่าตลาดของ Bitcoin อยู่ที่ 5 แสนล้านดอลลาร์ หมายความว่าอัตรา Bitcoin Dominance จะอยู่ที่ 50% หมายความว่า Bitcoin มีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 50% ของมูลค่ารวมคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดในตลาด Bitcoin Dominance สำคัญอย่างไร? Bitcoin Dominance มีความสำคัญเนื่องจากสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์สุขภาพและทิศทางของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจาก Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกและเป็นที่รู้จักมากที่สุด มันจึงถูกมองว่าเป็นตัวบ่งชี้สถานการณ์ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด เมื่ออัตรา Bitcoin Dominance อยู่ในระดับสูง แสดงว่านักลงทุนมั่นใจใน Bitcoin มากกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ แต่ในทางกลับกัน หาก Bitcoin Dominance อยู่ในระดับต่ำ อาจบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังเปลี่ยนความสนใจไปยังสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ Bitcoin Dominance เพื่อติดตามแนวโน้มในตลาดได้อีกด้วย เช่น หาก Bitcoin Dominance ลดลงในขณะที่มูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้น อาจบ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มสนใจ Altcoin หรือคริปโตสกุลอื่น ๆ มากขึ้น *Altcoin หมายถึงสกุลเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Bitcoin ซึ่ง ETH, USDT, ADA และอื่น ๆ ถือเป็น Altcoin ทั้งหมด ปัจจัยใดที่ส่งผลต่อ Bitcoin Dominance? ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตรา Bitcoin Dominance มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือราคาของ Bitcoin โดยในกรณีที่ราคา Bitcoin สูง อัตรา Bitcoin Dominance ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหันมาสนใจบิตคอยน์มากขึ้น ในทางกลับกัน หากราคาของ Bitcoin ต่ำ ความโดดเด่นของมันอาจลดลงเนื่องจากนักลงทุนหันมาสนใจสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ แทน อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อ Bitcoin Dominance คือประสิทธิภาพของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ หาก Altcoin มีผลประกอบการดี นักลงทุนก็อาจออกจาก Bitcoin และเข้าหา Altcoin มากขึ้น ทำให้ Bitcoin Dominance ลดลงนั่นเอง อีกปัจจัยคือ ปัญหาด้านกฎระเบียบและกฎหมายซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Bitcoin Dominance เช่น หากมีข่าวว่ารัฐบาลต้องการควบคุมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีหรือออกกฏระเบียบที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องก็อาจนำไปสู่การลดลงของอัตรา Bitcoin Dominance ได้ เนื่องจากนักลงทุนจะมีความระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น สรุป Bitcoin Dominance เป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญในวงการคริปโทเคอร์เรนซี โดยเป็นตัวเลขที่คำนวณมาจากการดูจากมูลค่าตลาดของ Bitcoin และหารกับมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด เพื่อดูว่า Bitcoin มีส่วนแบ่งคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพและทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ จึงเป็นอีกเครื่องมือที่นักลงทุนควรศึกษาติดตัวเอาไว้ อ้างอิง Worldcoin, Makeuseof, Beincrypto _________________________________________ คำเตือน: *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ **สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต _________________________________________ ติดตามบทความที่น่าสนใจได้ที่นี่: ทำความรู้จัก Altcoins เหรียญคริปโตทางเลือก Market Cap คืออะไร? ทำไมนักลงทุนคริปโทฯควรรู้ ดัชนี Crypto Fear & Greed index คืออะไร? อีกเครื่องมือที่นักเทรดต้องมีติดตัว Bitcoin Dominance คืออะไร? รู้จักตัวชี้วัดความเป็นใหญ่ของ BTC was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Mon, 27 Mar 2023 | อ่าน: 286
KYC Update : ฟีเจอร์ใหม่ อัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจุบัน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

KYC Update : ฟีเจอร์ใหม่ อัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจุบัน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

KYC Update : ฟีเจอร์ใหม่ อัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจุบัน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง KYC Update คืออะไร?KYC Update คือ การทบทวน”ข้อมูล” และ “วงเงินบัญชี” ผู้ใช้ทุกบัญชี ตามรอบระยะเวลาการเปิดบัญชีของลูกค้าแต่ละราย เรียกว่า การทบทวนข้อมูลบัญชีประจำปี หรือ KYC Update จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำ KYC Update หรือไม่? -ตรวจสอบผ่านลิงก์ : https://www.bitkub.com/kyc -เข้าแอปพลิเคชัน Bitkub Exchange สำหรับมือถือระบบ Android เท่านั้น ส่วนในเวอร์ชั่นของ iOS จะได้รับการอัปเดตเร็ว ๆ นี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค. 66) สัญลักษณ์การแจ้งเตือนจะปรากฎบนช่องทางดังกล่าว จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ทำ KYC Update / ไม่ทำ KYC Update และจะถูกระงับทันทีหรือไม่? บัญชีของท่านจะไม่ถูกระงับในทันที แต่เมื่อบัญชีของท่านถึงรอบการทบทวนข้อมูลบัญชี ท่านจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านอีเมล ล่วงหน้า 30 วัน ก่อนถึงวันครบรอบทบทวนข้อมูลบัญชี เพื่อให้ดำเนินการอัปเดตข้อมูลบัญชีของท่านให้เป็นปัจจุบัน โดยการแจ้งตือน จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะดังนี้ ระยะที่ 1: แจ้งเตือนเพื่อให้ทำ KYC Update ระยะที่ 2: แจ้งเตือนเพื่อระงับการซื้อขาย ระยะที่ 3: แจ้งเตือนเพื่อรับงับการฝากถอน เมื่อพบการแจ้งเตือน KYC Update ต้องทำอย่างไร?เมื่อพบ สัญลักษณ์แจ้งเตือน ผ่านทางเว็บไซต์ผ่านลิงก์ https://www.bitkub.com/kyc แสดงว่ารอบทบทวนข้อมูลดังกล่าวมาถึงแล้ว ลูกค้าทุกท่านจำเป็นต้องตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลบัญชี (KYC) ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้ข้อมูลบนระบบมีความถูกต้องมากที่สุดตามนโยบายการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ ซึ่งลูกค้าสามารถอัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตัน (KYC Update) ได้ทั้ง KYC Update บนเว็บไซต์ และ KYC Update บนแอปพลิเคชั่น* ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างสำหรับ KYC Update?เอกสารเพิ่มเติมประกอบการยืนยันตัวตนตามรอบทบทวนข้อมูลบัญชี 1.กรณีที่ท่านมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล โปรดแนบเอกสารสำเนาการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนใบใหม่ของท่าน 2.กรณีที่ท่านมีสัญชาติจีน และบัตรประชาชนของท่านหมดอายุ โปรดแนบสำเนาบัตรประชาชนจีนใบใหม่ของท่าน 3.กรณีที่ท่านต้องการขอเปลี่ยนวงเงินบัญชี โปรดแนบรายการเงินฝากถอนบัญชีเงินฝากของท่าน (Bank Statement) 3 เดือนล่าสุด และ หลักฐานแสดงที่อยู่ของท่าน โดยวันที่ออกเอกสารต้องไม่เกิน 3 เดือน เช่น ใบแจ้งค่าโทรศัพท์ ใบแจ้งค่าน้ำ-ค่าไฟ (โดยเอกสารต้องระบุเป็นชื่อของท่าน) หมายเหตุ: การทบทวนข้อมูลบัญชี หรือ KYC Update คือ การอัปเดตข้อมูลบัญชีในทุกส่วน ซึ่งหมายรวมถึงการส่งเอกสารยืนยันตัวตนใหม่ และอาจมีผลต่อวงเงินบัญชีของท่านด้วย ตามข้อมูลยืนยันตัวตนใหม่ที่ท่านจัดส่งเข้ามา วงเงินบัญชีของท่านอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามการพิจารณาของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยง แหล่งที่มา : การยืนยันตัวตนตามรอบทบทวนข้อมูลบัญชีประจำปี (KYC Update) KYC Update : ฟีเจอร์ใหม่ อัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจุบัน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Mon, 27 Mar 2023 | อ่าน: 469
Arbitrum (ARB) คืออะไร รู้จักผู้ช่วยสุดปังของ Ethereum

Arbitrum (ARB) คืออะไร รู้จักผู้ช่วยสุดปังของ Ethereum

Arbitrum (ARB) คืออะไร รู้จักผู้ช่วยสุดปังของ Ethereum

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Sun, 26 Mar 2023 | อ่าน: 2691
รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าอาจหยุดขึ้นต่อแล้ว

รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าอาจหยุดขึ้นต่อแล้ว

รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: FED ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าอาจหยุดขึ้นต่อแล้ว Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! *เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด =================== FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยใกล้สิ้นสุดแล้ว ภาพจาก: https://www.usatoday.com/เมื่อวันพุธที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม เฟดได้แสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับวิกฤตการของธนาคารที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้พร้อมส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยใกล้จะสิ้นสุดลง นอกจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 คณะกรรมการ FOMC ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นในอนาคตนั้นยังไม่สามารถรับประกันได้ และจะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามา ในขณะที่ความคิดเห็นที่ประธานเฟด Jerome Powell กล่าวระหว่างการแถลงข่าวนั้นหมายถึงว่าธนาคารกลางอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เขาก็ได้ยืนยันว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบสิ้น ที่มา CNBC อ่านเกี่ยวกับ Federal Reserve ได้ที่นี่ การประชุม FED คืออะไร ส่งผลกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างไร? =================== Polygon จับมือ Immutable พัฒนาเครือข่ายสำหรับเกมมิ่ง ภาพจาก: https://polygon.technology/Polygon และ Immutable ซึ่งทั้งคู่ต่างเป็น Layer 2 แนวหน้าสำหรับ Ethereum ประกาศร่วมมือกันเพื่อสร้างเครือข่ายใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเกม Web3 ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี zkEVM ของ Polygon Polygon Labs และ Immutable ได้ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมกันสร้าง Immutable zkEVM เครือข่าย Layer 2 ตัวใหม่ที่นำเทคโนโลยี Polygon zkEVM ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้มาประสานเข้ากับแพลตฟอร์ม Immutable ที่ออกแบบมาสำหรับเกมบนบล็อกเชน ความร่วมมือครั้งนี้ถูกประกาศในช่วงเริ่มต้นงาน Game Developers Conference (GDC) ประจำปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า Polygon และ Immutable จะรวมเครือข่ายกัน ทั้งคู่จะดำเนินโปรเจกต์ของตัวเองต่อไป โดย Polygon มีกำหนดเปิดตัวเครือข่าย Mainnet zkEVM (Zero Knowledge) รุ่นเบต้าในวันที่ 27 มีนาคม ขณะที่ Immutable X ซึ่งใช้เทคโนโลยี StarkEx zk-Rollup จะยังคงดำเนินการควบคู่ไปกับเครือข่าย Immutable zkEVM ตัวใหม่ ที่มา Decrypt อ่านเกี่ยวกับ Polygon, Immutable X, และ Zero Knowledge Proof ได้ที่นี่ รู้จัก MATIC หนึ่งใน Layer 2 ของ Ethereum ที่มาแรงที่สุดตอนนี้ รู้จักกับ IMX เทคโนโลยี Layer 2 สำหรับ NFT โดยเฉพาะบน Ethereum รู้จัก Zero-Knowledge Proofs ความโปร่งใสที่มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัว =================== Microsoft กำลังทดสอบ Crypto Wallet ในเว็บเบราว์เซอร์ Edge ภาพจาก: https://twitter.com/thebookisclosedMicrosoft ดูเหมือนว่ากำลังทดสอบกระเป๋าคริปโตแบบ Built-in ในเบราว์เซอร์ Edge รุ่นเบต้า อ้างอิงจากภาพสกรีนช็อตที่เปิดเผยโดยผู้ใช้ Twitter ชื่อว่า Albacore Albacore ที่มักค้นพบฟีเชอร์บน Windows ที่ไม่ได้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ระบุว่า Microsoft มีคำอธิบายเกี่ยวกับกระเป๋าคริปโตว่า “ประสบการณ์ Web3 ที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น” และยังมี “คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องคุณจากแอปที่ไม่ปลอดภัย” ที่มา ars technica อ่านเกี่ยวกับ Web3 ได้ที่นี่ Web 3.0 คืออะไร เกี่ยวกับบล็อกเชนอย่างไร? =================== Mastercard เตรียมเปิดตัวบริการชำระเงินด้วย Stablecoin ใน APAC Mastercard ผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลกกำลังเปิดตัวบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลร่วมกับ Stables. แพลตฟอร์ม Stablecoin ของออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา Mastercard และ Stables ประกาศความร่วมมือเพื่อให้ลูกค้ารายย่อยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) สามารถใช้เหรียญ Stablecoin ได้ทุกที่ที่รับบัตร Mastercard ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นบริการกระเป๋าเงินสำหรับ Stablecoin เท่านั้น สร้างโดย Stables ซึ่งมาพร้อมกับบัตรชำระเงินที่ Mastercard รองรับ บัตรชำระเงินนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้เหรียญ USDC ได้ โดยการแปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็น Fiat และชำระเงินในเครือข่ายของ Mastercard ที่มา Cointelegraph อ่านเกี่ยวกับ Stablecoin และ USDC ได้ที่นี่ USDC คืออะไร? รู้จักอีกหนึ่ง Stablecoin ที่เติบโตเร็วที่สุด Stablecoin คืออะไรและมีทั้งหมดกี่ประเภท? =================== วาฬ XRP กำลังเร่งสะสมเหรียญ ท่ามกลางความมั่นใจว่า Ripple จะชนะคดี นักลงทุนรายใหญ่มีความสนใจเหรียญ XRP ของ Ripple มากขึ้น ซึ่งน่าจะได้แรงหนุนจากการคาดเดาว่าบริษัท Ripple จะสามารถเอาชนะการฟ้องร้องคดีของ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายปี ประกอบกับทิศทางตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เริ่มสดใสขึ้นในช่วงนี้ จากข้อมูลล่าสุดที่แชร์โดยบริษัทวิเคราะห์ Santiment และได้รับการยืนยันโดย Ali Martinez ผู้เชี่ยวชาญบล็อกเชนชื่อดัง เมื่อเดือนที่แล้วมีวาฬ XRP ประมาณ 50 รายที่ถือครองเหรียญเป็นจำนวนระหว่าง 10–100 ล้านเหรียญได้เข้าสู่ตลาด นักลงทุนกลุ่มนี้ได้สะสม XRP มากกว่า 420 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าถึง 185.4 ล้านดอลลาร์แล้ว การซื้อเหรียญสะสมเกิดขึ้นท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจหลายตัวที่ออกมาในเชิงลบ รวมถึงวิกฤตการณ์ทางการเงินของธนาคารในสหรัฐฯ ที่มา ZyCrypto อ่านเกี่ยวกับ XRP ได้ที่นี่ อนาคตเหรียญ Ripple (XRP) จะเป็นอย่างไร? =================== ChatGPT สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้แล้ว ด้วยปลั๊กอินตัวใหม่ ChatGPT ที่เป็น AI Chatbot ตอนนี้สามารถดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์และโต้ตอบกับเว็บไซต์ภายนอกได้แล้ว ผ่านปลั๊กอินใหม่ที่เปิดตัวโดยผู้สร้างอย่าง OpenAI โดย OpenAI กล่าวในการประกาศเมื่อวันที่ 23 มีนาคมว่า ฟีเชอร์ปลั๊กอินนี้ยังอยู่ในช่วงอัลฟ่าที่ใช้งานได้เฉพาะผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น และเปิดให้เข้าถึงกันได้กว้างขึ้นเป็นลำดับต่อไป ผู้ใช้ต้องเพิ่มตัวเองในรายชื่อ Waitlist เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่นี้ ในช่วงเริ่มแรกจะมีเพียง 11 ปลั๊กอินเท่านั้น ปลั๊กอินเหล่านี้มีตั้งแต่การช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบคะแนนการแข่งขันกีฬา ไปจนถึงการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศ และสั่งซื้ออาหารได้ โดย OpenAI ระบุว่าจะทยอยเปิดตัวปลั๊กอิน เพื่อให้สามารถใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงได้กว้างขึ้น ที่มา Cointelegraph อ่านเกี่ยวกับ AI ได้ที่นี่ AI กับ Blockchain จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร? =================== คำเตือน *สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ **คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน ***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าอาจหยุดขึ้นต่อแล้ว was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Fri, 24 Mar 2023 | อ่าน: 1160
Bank Run คืออะไร? รู้จักวิกฤตที่ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร

Bank Run คืออะไร? รู้จักวิกฤตที่ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร

เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนน่าจะเห็นข่าวใหญ่ที่เกี่ยวกับการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและมีส่วนสำคัญกับวงการเทคโนโลยีของสหรัฐฯ สิ่งที่เกิดชึ้นคือการที่ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารจนเกิดเป็นวิกฤตที่เรียกว่า Bank Run ในบทความนี้ Bitkub Blog จะมาเล่าให้ฟังว่า Bank Run คืออะไร เกิดอะไรขึ้นกับ Silicon Valley Bank และมีผลอย่างไรกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี Bank Run คืออะไร? Bank Run หรือการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยข่าวสารหรือผลประกอบการของธนาคารก็ตาม หากการแห่ถอนเงินนั้นเกิดขึ้นเร็วและรุนแรง ธนาคารก็อาจไม่สามารถนำเงินสดมาคืนลูกค้าได้ทั้งหมด จนกลายเป็นวิกฤตทางการเงินที่จะขยายตัวไปสู่ธนาคารหรือสถาบันการเงินรายอื่น ๆ ได้อีก Bank Run ครั้งใหญ่ที่สุดในประวิตศาสตร์ เกิดขึ้นในช่วงปี 1930 หรือสมัย The Great Depression ที่เศรษฐกิจตกต่ำ ธนาคารหลายแห่งทั่วโลกได้ประสบเหตุ Bank Run เนื่องจากหลายธนาคารได้นำเงินฝากของลูกค้าไปลงทุนในตลาดหุ้นที่กำลังบูมในตอนนั้น แต่ต่อมาก็เกิดเหตุตลาดหุ้นพังในปี 1929 ทำให้ธนาคารมีเงินสดไม่เพียงพอที่จะนำมาจ่ายคืนลูกค้าที่ต้องการถอนเงินจำนวนมากได้ จนกลายเป็นเหตุ Bank Run ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ แม้เราอาจไม่ได้เห็น Bank Run บ่อยนักนับตั้งแต่สมัย The Great Depression แต่เหตุ Bank Run ก็ได้กลับมาอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปี 2023 นี้ โดยเกิดขึ้นกับธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ที่กลายเป็นข่าวใหญ่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ทำไม Bank Run จึงเกิดขึ้นกับ SVB Silicon Valley Bank (SVB) เป็นธนาคารใหญ่ระดับต้น ๆ ในสหรัฐอเมริกา ถือสินทรัพย์มูลค่ารวมมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จึงเป็นเหตุ Bank Run ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ รองจาก Washington Mutual bank ที่เกิด Bank Run ในปี 2008 ภาพประกอบจาก: https://yarn.pranshum.com/banksSVB เน้นให้บริการด้านการเงินกับบริษัทและสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น Roblox เกมออนไลน์ชื่อดัง, Roku เแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง, หรือแม้แต่ Circle บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง USDC เป็นต้น ทำให้บริการของ SVB เป็นที่ต้องการอย่างมากโดยเฉพาะในช่วง COVID-19 เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลกัน บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งใช้บริการของ SVB เพื่อเก็บเงินสดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ ทำให้มีกระแสเงินฝากเข้ามาใน SVB เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งทาง SVB ก็นำเงินฝากส่วนหนึ่งไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เหมือนกับการดำเนินงานของธนาคารทั่ว ๆ ไป แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะว่า SVB นำเงินไปลงทุนกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมาธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้พอร์ตของ SVB สูญเสียมูลค่าลงอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะพันธบัตรมีความสัมพันธ์แบบสวนทางกับอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรมักจะลดลง ธนาคารจึงเริ่มสูญเสียสภาพคล่อง ลูกค้าของธนาคารเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงเริ่มพากันถอนเงินฝากออกมาเก็บไว้เอง และเกิดเป็นกระแสในสื่อโซเชียลทำให้การแห่ถอนเงินเกิดขึ้นเร็วและหนักมากกว่าครั้งไหน ๆ SVB ที่มีเงินสดไม่เพียงพอจึงขายพันธบัตรบางส่วนโดยยอมขาดทุนหนัก แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับลูกค้าจนกระแสแห่ถอนเงินหนักกว่าเดิมจนเกิดการ Bank Run จากนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ จึงสั่ง SVB ให้หยุดกิจการ เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกระทบขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ Bank Run ส่งผลอย่างไรกับตลาดคริปโต อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าบริษัท Circle ผู้ออกเหรียญ USDC ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของ SVB ทำให้ในระยะสั้นเกิดผลกระทบกับเหรียญ USDC และเหรียญในกลุ่ม Stablecoin โดย Circle ได้ฝากเงินสำรองที่ใช้ตรึงมูลค่าของ USDC ไว้กับ SVB เป็นมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ผู้ถือเหรียญ USDC เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและพากันขายเหรียญ USDC เป็นจำนวนมาก ทำให้มูลค่าของเหรียญลดลงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Jeremy Allaire ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Circle ได้ออกมากล่าวดึงความเชื่อมั่นกลับมา โดยระบุว่า SVB เป็นเพียงหนึ่งในธนาคารที่ Circle เลือกใช้เพื่อฝากสินทรัพย์เท่านั้น ประกอบกับการที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าผู้ที่ฝากเงินไว้กับ SVB จะสามารถถอนเงินของตัวเองได้เต็มจำนวน จึงทำให้ USDC สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นแถว 1 ดอลลาร์ได้ สรุป Bank Run คือการที่ลูกค้าแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคาร แต่ธนาคารไม่สามารถนำเงินสดมาคืนลูกค้าได้ทั้งหมด หากหน่วยงานที่เกี่ยวกับไม่สามารถเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทัน Bank Run ก็อาจกลายเป็นโดมิโนจนธนาคารอื่น ๆ ประสบเหตุ Bank Run ตามกันมาได้ อ้างอิง Investopedia, CNBC, Axios, CBS News _________________________________________ ติดตามบทความที่น่าสนใจได้ที่นี่: Stablecoin คืออะไรและมีทั้งหมดกี่ประเภท?เงินเฟ้อคืออะไร เตรียมรับมืออย่างไรดี?การประชุม FED คืออะไร ส่งผลกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างไร? ___________________________________ คำเตือน: *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ **สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต Bank Run คืออะไร? รู้จักวิกฤตที่ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Thu, 23 Mar 2023 | อ่าน: 1872
รู้จักกับ Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 2 ของโลก

รู้จักกับ Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 2 ของโลก

รู้จักกับ Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 2 ของโลก

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Wed, 22 Mar 2023 | อ่าน: 11705
Bitkub Fee Credits Festival เทศกาลแจก Fee Credits ให้ลูกค้าบิทคับ!

Bitkub Fee Credits Festival เทศกาลแจก Fee Credits ให้ลูกค้าบิทคับ!

Bitkub Fee Credits Festival เทศกาลแจก Fee Credits ให้ลูกค้าบิทคับ!

ผู้เขียน : Waranyu Suknantee | Wed, 22 Mar 2023 | อ่าน: 3313
  • …
ข่าว

วิดีโอบนช่อง YouTube

คุณสามารถรับชมวิดีโอคุณภาพผ่านช่องทาง YouTube ของเราได้ กดปุ่ม YouTube ด้านล่างพื่อ Subscribe และรับการแจ้งเตือนเวลาเราอัพโหลดวิดีโอใหม่ๆ

บริการของเรา
  • ตลาดซื้อขาย
  • ซื้อและขาย Cryptocurrency
  • ซื้อ Bitcoin
  • ซื้อ Ethereum
เกี่ยวกับบิทคับ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ภารกิจของเรา
  • ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นโยบายการใช้คุกกี้
  • นโยบาย AML/CFT
  • นโยบายการแจ้งเบาะแสและข้อร้องเรียน
ศูนย์ดูแลลูกค้า
  • คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
  • สารบัญเหรียญ
  • ค่าธรรมเนียม
  • ระยะเวลาการ ฝาก/ถอน
  • ความปลอดภัย
  • BUG BOUNTY PROGRAM
  • ข้อมูล API
ประกาศและข่าวสาร
  • ห้องข่าว
  • ประกาศ
  • บล็อก
  • รายงานข้อมูลคุณภาพการให้บริการ
ติดต่อเรา
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา
  • การลิสต์เหรียญ
  • ติดต่อด้านพัฒนาธุรกิจ
  • ช่องทางการร้องเรียน
  • แจ้งเตือนข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมาย
  • gold
  • sectigo
© 2023 BITKUB Online CO., LTD ALL RIGHTS RESERVED